“อ่าวโล๊ะปาเหรด” ด้วยความยาวของแนวชายหาดถึง 1 กม.จึงทำให้อ่าวโล๊ะปาเหรดเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของเกาะยาวใหญ่ ทรายสีน้ำตาลอ่อน น้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวคล้ายคลึงกับอ่าวโล๊ะจาก มีหมู่แมกไม้ริมชายหาดแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาครึ้ม บางวันนักท่องเที่ยวอาจได้พบกับชาวบ้านนำปลาทูกัง/ปลาฉิ้งฉ้างมาตากไว้ริมชายหาดเพื่อทำปลาแห้ง ด้านทิศเหนือของอ่าวโล๊ะปาเหรดมีลักษณะเป็นหาดหินมีสะพานปลายื่นยาวลงไปในท้องทะเล นักท่องเที่ยวอาจขอเช่าอุปกรณ์ตกปลาจากชาวบ้านหรือรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ แล้วไปนั่งตกปลาริมสะพานก็ได้ (ช่วงกลางวันมักจะมีชาวบ้านมานั่งตกปลาที่สุดปลายสะพานปลาแห่งนี้อยู่เกือบทุกวัน) หากใครอยากดำดูปะการังน้ำตื้นก็เช่าเสื้อชูชีพกับหน้ากากดำน้ำว่ายออกไปจากฝั่งไม่ไกลนักก็จะพอเห็นแนวปะการังซึ่งไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ได้ อ่าวโล๊ะปาเหรดนี้เป็นหนึ่งในอ่าวที่มีชื่อเสียงของเกาะยาวใหญ่จึงมีการสร้างถนนคอนกรีตเข้ามาถึง และมีป้ายบอกทางมายังอ่าวโล๊ะปาเหรดเป็นระยะ ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานยนต์มาเที่ยวเองได้ไม่ลำบาก อ่าวโล๊ะปาเหรดตั้งอยู่ห่างจากท่าเรือโล๊ะจากประมาณ 9 กม. (จากท่าเรือโล๊ะจากให้ขี่จักรยานยนต์มาทาง ต.พรุใน เจอสามแยกให้เลี้ยวซ้ายแล้วไปตามป้ายบอกทางเรื่อย ๆ ก็จะเจอชายหาดในที่สุด)

ณ อ่าวโล๊ะปาเหรด แห่งนี้ ความงดงามอยู่เคียงข้างกับความเงียบสงบ

"อ่าวโล๊ะปาเหรด" หนึ่งในชายหาดบนเกาะยาวใหญ่ที่ควรค่าแก่การแวะมาเยี่ยมเยือน

กว้างไกลสุดสายตา กับอ่าวที่ได้ชื่อว่ามีความยาวของชายหาดมากที่สุดบนเกาะยาวใหญ่

ชาวบ้านนำปลามาตากแห้งริมชายหาด "อ่าวโล๊ะปาเหรด"

     “อ่าวบ่อเล” เป็นที่ตั้งของ Elixir Resort อยู่ห่างจากท่าเรือโล๊ะจากประมาณ 3 กม. อ่าวบ่อเลมีทัศนียภาพของชายหาดที่สวยงาม ทรายสีขาวนวลละเอียดนุ่มเท้า น้ำทะเลใสสีเขียวอมฟ้า มีเศษซากปะการังตายกระจายอยู่บนชายหาดเป็นหย่อม ๆ สามารถดำน้ำตื้นดูปะการังที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นักได้เช่นเดียวกับชายหาดทั้งสองแห่งดังข้างต้น ด้านทิศเหนือของชายหาดมีโขดหินรูปร่างแปลกตาดูโดดเด่น แม้ว่าอ่าวบ่อเลจะเป็นที่ตั้งของ Elixir Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่หรูหราที่สุดบนเกาะยาวใหญ่แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถแวะเข้ามาเล่นน้ำบริเวณชายหาดได้โดยจอดรถจักรยานยนต์ไว้บริเวณปากทางเข้ารีสอร์ทแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทาง
รีสอร์ทให้ทราบก่อน นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานยนต์มาเที่ยวยังอ่าวบ่อเลได้เองโดยให้สังเกตป้ายบอกทางไป Elixir Resort แล้วขี่รถตามป้ายนั้นไปเรื่อย ๆก็จะพบกับทางเข้ารีสอร์ท (จากท่าเรือโล๊ะจากให้ขี่จักรยานยนต์มาทาง ต.พรุใน เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วไปตามป้ายบอกทางเรื่อย ๆโดยต้องขี่ผ่านถนนลูกรังบางช่วง สังเกตว่าจะมีป้าย Elixir Resort อยู่ทางด้านขวามือ)
      สำหรับชายหาดอื่น ๆ นอกเหนือไปจากชายหาดทั้ง 3 แห่งซึ่งทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ได้แนะนำไปดังข้างต้นแล้วนั้น (หาดโล๊ะจาก ,อ่าวโล๊ะปาเหรด และอ่าวบ่อเล) ล้วนแต่เป็นชายหาดซึ่งเข้าถึงได้ยากจากการใช้ถนนบนเกาะจึงไม่ขอแนะนำไว้ ณ ที่นี้ (หากต้องการไปเที่ยวชายหาดอื่น ๆนอกเหนือไปจากชายหาดทั้ง 3 แห่งดังข้างต้น แนะนำว่าควรเหมาเรือหัวโทงไปจะสะดวกกว่า ราคาเหมาเรือขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการจะไปชายหาดอื่น ๆแห่งไหนบ้างครับ)

"อ่าวบ่อเล" ที่ตั้งของรีสอร์ตที่หรูหราที่สุดบนเกาะยาวใหญ่ "Elixir Resort"

แม้ท้องฟ้าจะหม่นมัว แต่ความงดงามของอ่าวบ่อเลก็หาได้ถูกบดบังจนจืดจางไปไม่

ชาวบ้านกำลังช่วยกันต่อลอบดักปูบริเวณอ่าวม่วง (ภาพที่สองจากซ้าย) และมุมมองที่แตกต่าง ณ อ่าวบ่อเล (ภาพแรก ,ภาพที่สามและภาพที่สี่ี่จากซ้าย)

     การเดินทางท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆบนเกาะยาวใหญ่นั้นค่อนข้างจะลำบากกว่าการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะยาวน้อย เนื่องจากถนนซึ่งเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งยังคงเป็นถนนลูกรังที่ขรุขระและเต็มไปด้วยฝุ่นอีกทั้งยังไม่มีป้ายบอกทางไปสถานที่แต่ละแห่งอย่างชัดเจน จะมีถนนคอนกรีตไปถึงเฉพาะแต่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญจริง ๆเท่านั้น (เช่น หาดโล๊ะจาก ,หาดโล๊ะปาเหรด เป็นต้น) ในกรณีที่คุณไม่ได้นำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามฟากมาด้วย คุณจะมีทางเลือกในการเดินทางบนเกาะยาวใหญ่โดยใช้พาหนะ 2 แบบ คือ เช่ารถจักรยานยนต์ (ค่าเช่าไม่รวมน้ำมันวันละประมาณ 200 – 250 บาท) หรือ เหมารถสองแถว (ค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 700 – 1,000 บาท) ซึ่งมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันดังนี้
     “รถจักรยานยนต์” ข้อดีคือ มีความคล่องตัวสูง สามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวได้เกือบทุกแห่ง เป็นทางเลือกซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในกรณีที่มาท่องเที่ยวแบบคู่รักสองต่อสอง ข้อเสียคือ ผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญพอสมควรและต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่สูงเนื่องจากถนนหลายช่วงยังคงเป็นถนนลูกรังและทางเข้าชายหาดหลายแห่งเป็นถนนทรายเล็ก ๆยาวหลายร้อยเมตร ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ซึ่งขาดความชำนาญอาจเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่าย นอกจากนั้นทางเข้าชายหาดหลายแห่งก็ไม่มีป้ายบอกทางชัดเจนทำให้นักท่องเที่ยวซึ่งขี่จักรยานยนต์มาเที่ยวเองอาจหลงทางได้ (ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมเลือกเช่าจักรยานยนต์ขี่เที่ยวเองและก็หลงทางมาแล้วครับ)
     “รถสองแถว” ข้อดีคือ มีความปลอดภัยสูง สามารถไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการได้โดยไม่ผิดพลาด ไม่ต้องกลัวหลง (เนื่องจากคนท้องถิ่นเป็นผู้ขับ) เหมาะสำหรับผู้ซึ่งเดินทางมาเป็นหมู่คณะ ข้อเสียคือ ชายหาดหลายแห่งรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ นักท่องเที่ยวต้องให้เจ้าของรถจอดรถรออยู่หน้าทางเข้าชายหาดซึ่งเป็นถนนทรายแล้วเดินเข้าไปยังชายหาดเหล่านั้นเอง (บางแห่งต้องเดินเป็นกิโลฯกว่าจะเข้าไปถึงหาดทราย) สำหรับผู้ซึ่งเลือกนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามจากฝั่ง จ.ภูเก็ตมายังเกาะยาวใหญ่ จ.พังงาเองนั้นจะพบกับข้อด้อยทั้งในเรื่องของความเสี่ยงต่อการหลงทางและไม่สามารถเข้าถึงชายหาดหลายแห่งได้

     เนื่องจากบนเกาะยาวใหญ่ไม่มีร้าน 7 – 11 อีกทั้งยังมีร้านขายอาหารต่าง ๆให้เลือกไม่มากนักแถมร้านอาหารแต่ละแห่งก็อยู่ไกลกันสุดกู่ คุณจึงมีทางเลือกในการหาของกินประทังชีวิตบนเกาะยาวใหญ่อยู่เพียงไม่กี่แบบ ได้แก่
          1.เตรียมเสบียงมาเองจากบนฝั่ง เนื่องจากประชากรส่วนมากบนเกาะยาวใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่เคร่งครัด เพราะฉะนั้นคุณจึงไม่ควรพกพาสุรายาเมาอีกทั้งผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร (หมู) ขึ้นมาบนเกาะโดยเด็ดขาด ผู้ซึ่งกลัวว่ามาติดเกาะแล้วจะหาของกินได้ลำบากควรเตรียมอาหารแห้ง ,อาหารกระป๋อง หรือขนมปังมาจากบนฝั่งไว้บ้าง
          2.ขี่จักรยานยนต์ตระเวนหาของกินด้วยตนเอง ชาวบ้านบนเกาะยาวใหญ่นิยมปรุงอาหารรับประทานกันเองในครัวเรือนจึงทำให้หาร้านอาหารตามสั่งบนเกาะได้ยาก เท่าที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมลองขี่จักรยานยนต์สำรวจดูละแวก ต.พรุใน พบว่ามีร้านขายลูกชิ้น/ไส้กรอกทอดอยู่เพียงแค่ 2 ร้าน มีร้านขายขนมพื้นเมืองอยู่ 2 ร้าน มีร้านอาหารตามสั่งและร้านก๋วยเตี๋ยวกระจายตัวอยู่ห่าง ๆกันรวมแล้วอีกไม่ถึง 10 ร้าน นอกจากนั้นร้านขายอาหารตามสั่ง/ก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่จะเปิดเพียงแค่ช่วงเวลาเช้า – บ่ายเท่านั้น (ในช่วงเวลาบ่ายพบว่ามีหลายร้านที่ปิดขายแล้วด้วยซ้ำครับ) นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการสั่งอาหารอย่าเผลอสั่งอาหารซึ่งปรุงจากเนื้อสุกร (หมู) เนื่องจากร้านอาหารส่วนใหญ่มีแม่ครัวเป็นชาวมุสลิม (ใครที่ไม่รับประทานเนื้อวัวก็จะยิ่งมีความยากลำบากในการหาอาหารรับประทานบนเกาะยาวใหญ่มากขึ้นไปอีก เพราะจะมีทางเลือกเหลือก็เพียงอาหารซึ่งปรุงจากเนื้อไก่หรืออาหารทะเลเท่านั้น)
          3.ฝากท้องไว้กับทางรีสอร์ท/ที่พัก หากคุณไม่ได้เช่าจักรยานยนต์ขี่เที่ยวบนเกาะเองอีกทั้งยังไม่ได้เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวมาจากบนฝั่งด้วยแล้วล่ะก็ ทางเลือกนี้อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่คุณจะพึงมีได้ไม่ว่าอาหารที่รีสอร์ทจะแพงแค่ไหนก็ตาม แต่หากคุณเลือกพักกับรีสอร์ทบริเวณหาดโล๊ะจากคุณก็จะได้ตัวช่วยเพิ่มขึ้นมาอีกนั่นคือ สามารถเดินมายังร้านขายอาหารตามสั่งและขนมซึ่งตั้งอยู่ ณ เชิงสะพานท่าเรือได้ไม่ไกลนัก (มีอยู่เพียง 2 ร้านเท่านั้นครับ)